สร้างแบรนด์

5 ขั้นตอนสร้างแบรนด์อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ?

5 ขั้นตอนสร้างแบรนด์อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ การสร้างแบรนด์นับว่าเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มการรับรู้และยอดขาย คำถามคือคุณจะเริ่มต้นสร้างแบรนด์จากตรงไหนดี?

เริ่มต้นสร้างแบรนด์

การสร้างแบรนด์ควรเริ่มต้นด้วยวิสัยทัศน์ของแบรนด์ มองแล้วเห็นภาพลักษณ์ที่เป็นแรงบันดาลใจของแบรนด์อย่างชัดเจน เพราะนั่นคือสิ่งที่ทุกบริษัทต้องทำเพื่อให้แบรนด์ยืนหยัดในสายตาของลูกค้า พนักงาน และ partner เพราะในที่สุดมันจะส่งผลต่อองค์ประกอบของการทำธุรกิจในหลาย ๆ ส่วน เช่น ส่งผลต่อการทำการตลาด ไปจนถึงเป็นเครื่องมือที่มีอิทธิพลเหนือคู่แข่งได้เลย

เมื่อวิสัยทัศน์ของแบรนด์ชัดเจน มันจะสะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์ทางธุรกิจที่มีความแตกต่างจากแบรนด์ของคู่แข่ง สามารถดึงดูดลูกค้า กระตุ้น และสร้างแรงบันดาลใจให้กับพนักงานและ partner ได้ ยิ่งไปกว่านั้น การสร้างแบรนด์เป็นมากกว่าแค่การนำเสนอธุรกิจ เพราะหากขาดไปหรือทำแค่เพียงผิวเผิน แบรนด์ก็จะล่องลอยไปอย่างไร้จุดหมาย และการทำการตลาดหรือกลยุทธ์ทางธุรกิจอื่น ๆ ก็จะไม่สอดคล้องกันและไม่ได้ผล

5 ขั้นตอนสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จ

ในการสร้างแบรนด์ควรใช้ Brand Vision Model เป็นจุดเริ่มต้น เนื่องจากเป็น Structural Framework สำหรับการพัฒนาวิสัยทัศน์ของแบรนด์ และยังสามารถทำให้แบรนด์แตกต่างจากคู่แข่งอื่นได้ในหลาย ๆ ด้าน

1. Research target audience และคู่แข่ง

ก่อนที่คุณจะเริ่มตัดสินใจอะไรก็ตามเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณ อย่างแรกเลยคือคุณต้องเข้าใจตลาดปัจจุบันก่อน ว่าใครที่จะมาเป็นลูกค้าและคู่แข่งของคุณ เพราะมันจะทำให้คุณได้รู้ว่าแบรนด์ของคุณควรที่จะมุ่งเน้นไปที่อะไร และควรจะสร้างแบรนด์ให้โดดเด่นจากคู่แข่งได้อย่างไร

2. หาจุดโฟกัสและ Personality ของแบรนด์

อย่าลืมว่าแบรนด์ของคุณไม่สามารถเป็นทุกอย่างได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเริ่มต้น สิ่งที่สำคัญอีกอย่างในการสร้างแบรนด์คือคุณต้องหาจุดสนใจและ Personality ของแบรนด์ให้เจอ สำหรับ positioning statement หรือข้อความของแบรนด์ ควรจะมีแค่ 1-2 บรรทัดก็พอ และ positioning statement นั้นก็ไม่จำเป็นต้องเอาไปใส่ไว้ในเว็บไซต์หรือนามบัตรของคุณ แต่มันเป็นเพียงการช่วยให้คุณรู้ว่าแบรนด์ของคุณเกี่ยวกับอะไร และช่วยในการสร้างแท็กไลน์ให้กับแบรนด์ของคุณได้

3. ตั้งชื่อแบรนด์

แบรนด์ของคุณจะใช้ชื่อว่าอะไร ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจที่คุณทำ อีกอย่างคือคุณต้องรู้ไว้ก่อนว่าเลยแบรนด์เป็นมากกว่าชื่อ เพราะแบรนด์เป็นทั้ง personality, actions และชื่อเสียงที่ทำให้ธุรกิจของคุณเป็นที่จดจำในตลาด

ตามหลักการแล้วการตั้งชื่อแบรนด์ควรตั้งชื่อที่เลียนแบบได้ยาก เพื่อป้องกันความสับสนกับแบรนด์อื่นในตลาด และหากคุณมีแผนที่จะขยายธุรกิจด้วยการขายผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ด้วย คุณก็ควรที่จะตั้งชื่อแบรนด์ให้กว้าง ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ ซึ่งมันจะดีกว่าการที่คุณตั้งชื่อแบรนด์ตามสินค้าประเภทเดียว

4. หา Slogan

สโลแกนควรเป็นคำหรือวลีที่ติดหู และไม่ต้องยาว แค่สั้น ๆ ก็พอ เพื่อเอาไว้เป็นตัวช่วยในการอธิบายแบรนด์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และเหมาะกับการใส่ลงไปตามแหล่งต่าง ๆ เช่น โซเชียลมีเดีย, header ของเว็บไซต์, นามบัตร หรือที่อื่น ๆ ที่คุณคิดว่าถ้าใส่สโลแกนลงไปจะทำให้แบรนด์ดูมีความหมายมากขึ้น

นอกจากนี้ในการสร้างแบรนด์คุณสามารถที่จะเปลี่ยนสโลแกนได้ตลอดเวลา ตราบใดที่คุณยังพบมุมมองใหม่ ๆ สำหรับการทำตลาด ยกตัวอย่างเช่นเป๊ปซี่ ที่ได้เปลี่ยนสโลแกนมาแล้วกว่า 30 ครั้งในช่วงไม่กี่ 10 ปีที่ผ่านมา สิ่งสุดท้ายในการตั้งสโลแกน ควรจำไว้ว่าสโลแกนที่ดีควรสั้น จับใจ และสร้างความประทับใจเมื่อได้อ่านหรือเห็น

5. หารูปลักษณ์ของแบรนด์ (สีและแบบอักษร)

สิ่งสุดท้ายในการสร้างแบรนด์ เมื่อคุณตั้งชื่อแบรนด์ได้แล้ว คุณจะต้องคิดต่อว่าคุณจะให้แบรนด์ของคุณใช้สีและตัวอักษรแบบไหน เพราะทั้งสองสิ่งนี้จะมีประโยชน์อย่างมากเมื่อคุณเริ่มสร้างเว็บไซต์แล้ว สำหรับการเลือกสีของแบรนด์ สีไม่เพียงแต่เป็นตัวกำหนดรูปลักษณ์ของแบรนด์เท่านั้น แต่สียังสื่อถึงความรู้สึกที่คุณต้องการจะสื่อ และยังช่วยทำให้ธุรกิจที่คุณทำมีความชัดเจนมากขึ้น

คำแนะนำ ในการเลือกสีของแบรนด์ ควรเลือกสีของแบรนด์ที่ทำให้ธุรกิจคุณมีความแตกต่างจากคู่แข่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคสับสน จิตวิทยาของสีไม่ใช่วิทยาศาสตร์ก็จริง แต่มันช่วยนำทางให้คุณเลือกสีของแบรนด์ได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลือกสีสำหรับโลโก้ของแบรนด์

การสร้างแบรนด์ไม่ได้หยุดอยู่แค่เพียงการสร้างโลโก้หรือสโลแกน หรือแม้แต่การเปิดตัวของแบรนด์เท่านั้น แต่การสร้างแบรนด์ที่แท้จริงคือการที่แบรนด์ของคุณต้องมีตัวตนและมีความมั่นคง ไม่ว่าจะเป็นธีมของเว็บไซต์ สื่อการตลาด ตลอดจน package และการจัดส่งสินค้า ล้วนอยู่ภายใต้กรอบของแบรนด์ทั้งสิ้น

อ้างอิง : blog.sellsuki.co.th

We’d love to hear from you, please get in touch.​​


CONTACT US